เทคนิคการสอนคอมพิวเตอร์
|
วิชาคอมพิวเตอร์จัดได้ว่าเป็นวิชาการที่ค่อนข้างใหม่
เมื่อเปรียบเทียบกับวิชาอื่น ๆ
ที่ปรากฎในหลักสูตรการเรียนการสอนในแทบทุกระดับชั้น
ดังนั้นวิชาคอมพิวเตอร์จึงเป็นวิชาที่ยังขาดกระบวนวิธีในการสอนเป็นการเฉพาะ
ในขณะที่วิชาอื่น ๆ จะมีวิธีสอนเฉพาะของตนเอง เช่น วิธีการสอนวิชาคณิตศาสตร์
วิธีการสอนวิชาภาษาไทย หรือวิธีการสอนวิชาสังคมศึกษา เป็นต้น
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีผู้พัฒนาทรัยากรช่วยสอนวิชาคอมพิวเตอร์ออกมามากมาย อาทิเช่น
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น กระบวนการสอนที่เป็นวิธีการ (Activity) ก็ยังไม่ค่อยมีใครพัฒนาขึ้นมา
จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการสอนคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
จะพบว่ามีเว็บเพจที่พูดถึงวิธีสอนวิชาคอมพิวเตอร์น้อยมาก
ผู้เขียนจึงเห็นว่าพวกเรา(ครูสอนคอมพิวเตอร์)
ทั้งหลายน่าจะมาช่วยกันนำเสนอแนวคิดและเทคนิควิธีสอนจากประสบการณ์ของตนเอง
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
อันจะนำมาซึ่งพัฒนาการในการสอนวิชาคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยต่อไป
|
การสอนวิชาคอมพิวเตอร์นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น
3 หมวดใหญ่
ๆ ด้วยกันคือ 1. การสอนวิชาเชิงทฤษฎีคอมพิวเตอร์ เช่น
วิชาพื้นฐานคอมพิวเตอร์ วิชาระบบฐานข้อมูล หรือ วิชาการวิเคราะห์และออกแบบระบบ 2.
การสอนวิชาการเขียนโปรแกรม เช่น การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาต่าง ๆ
หรือการสร้างโปรแกรมด้วยเครื่องมือกึ่งสำเร็จรูป ( Middle Ware) ทั้งหลาย เช่น โปรแกรม Visual Basic , Delphi หรือAuthorware
เป็นต้น 3. การสอนวิชาการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
เช่น วิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลคำ หรือวิชาการใช้โปรแกรมวาดและตบแต่งรูปภาพ
เป็นต้น ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเทคนิควิธีสอนวิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลคำ
ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 โดยจะเน้นเฉพาะเทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน
จากการที่ผู้เขียนได้พิจารณาการสอนของตนเอง
และเพื่อนครูด้วยกัน มักพบว่า ครูจะมีวิธีนำเข้าสู่บทเรียน
(การเริ่มต้นฝึกใช้โปรแกรม) อยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ 1. เริ่มสอนโดยการแนะนำให้นักเรียนรู้จักหน้าตาและเมนู
รวมทั้งแนะนำเครื่องมือ (Toolbar) ต่าง ๆ บนโปรแกรมที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอให้ครบถ้วนก่อนแล้วจึงเริ่มต้นสอนขั้นต่อไป
ซึ่งผู้เขียนขอเรียกวิธีสอนแบบนี้ว่า เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียนแบบแนะนำ (Introduction
method) ส่วนวิธีที่ 2 คือ
ครูเริ่มสอนโดยการให้ผู้เรียนลองพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ซัก 1 ประโยค
ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เรียนมักชอบพิมพ์ชื่อของตนเองก่อน
แล้วจึงสอนให้ผู้เรียนลองใช้คำสั่งในเมนูและเครื่องมือในแถบเครื่องมือมาบูรณาการ
ปรับแต่งข้อความที่ตนเองพิมพ์ลงไปให้สวยงามถูกใจ ผู้เขียนเรียกวิธีสอนแบบนี้ว่า
เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียนแบบสร้างผลผลิต (Production Method)
จากประสบการณ์การสอนของผู้เขียน พบว่าวิธีที่ 2 (Production Method) จะเป็นวิธีที่กระตุ้นและเร่งเร้าความสนใจของผู้เรียนได้ดีกว่าวิธีที่
1 (Introduction Method) ทั้งนี้เนื่องจากวิธีการสอนแบบสร้างผลผลิตนั้น
นักเรียนจะได้เรียนรู้และฝึกฝนในสิ่งที่มีความหมาย (Meaningfull Learning)
ซึ่งหมายถึงการพิมพ์ข้อความที่อ่านออกมีความหมาย
และสามารถใช้คำสั่งตบแต่งปรับปรุงข้อความนั้นได้ตามที่ต้องการเมื่อเริ่มหัดใช้โปรแกรม
ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยทางการศึกษาหลาย ๆ
เรื่องที่กล่าวถึงวิธีสอนที่มีความหมาย
จะได้ผลสัมฤทธิ์สูงกว่าวิธีสอนที่ไม่มีความหมาย
และด้วยการถูกกระตุ้นอย่างมีความหมายเช่นนี้
จึงทำให้นักเรียนเกิดความสนใจที่จะเรียนรู้ต่อไปอีก
ซึ่งทำให้ชั้นเรียนวิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลคำมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้
ส่วนวิธีนำเข้าสู่บทเรียนแบบแนะนำนั้น
ผู้เขียนพบว่ามักจะทำให้นักเรียนเบื่อหน่าย เนื่องจากต้องนั่งดูและฟังเฉย ๆ
จนกว่าครูจะแนะนำส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรมได้หมด นอกจากจะเป็นการเสียเวลาเปล่าแล้ว
ยังทำให้ชั้นเรียนเกิดสภาวะเฉื่อยชา และบั่นทอนความสนใจของนักเรียนลงไปในที่สุด
เทคนิควิธีการสอนที่นำเสนอในบทความนี้
ผู้เขียนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ครูคอมพิวเตอร์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
แต่เหนือสิ่งอื่นได้ ผู้เขียนคาดหวังไว้ว่า อยากเห็นครูคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย
ออกมามีส่วนร่วมใน การพัฒนางานคอมพิวเตอร์ศึกษาของไทย ให้เจริญรุดหน้ายิ่ง ๆ
ขึ้นไป
เพื่อให้ประเทศไทยสามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นแถวหน้าของวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกต่อไป…
|
วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556
เทคนิคการสอนคอมพิวเตอร์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น